เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ นี่คือคำที่ใช้ได้จริงในโลกฟุตบอล

เพราะเรื่องราวของทีมบาร์เซโลน่า ในยุคที่มีโรนัลดินโญ่ กับ ลีโอเนล เมสซี่ นั้นได้เกิดขึ้นมาแล้ว เพราะยุคก่อนที่จะมี ลีโอเนล เมสซี่ นั้น โรนัลดินโญ่ คือนักเตะมหัศจรรย์ ที่ทีมบาร์เซโลน่ามีอยู่ เพราะเค้านั้นสามารถสร้างปรากฎการณ์ การเล่นฟุตบอลที่ดูเพลินตาและพาทีมกวาดแชมป์มานับไม่ถ้วน โดยเจ้าเหยินน้อยนั้น ได้ย้ายทีมมาจาก ปารีส แซงแชร์แมงค์ ในลีกฟุตบอลฝรั่งเศสในวัยยี่สิบสามปี และที่นี่เองที่สตาร์คนนี้ฉายแสงออกมา และได้มีโอกาสได้ย้ายมาสู่บาร์เซโลน่า แม้ในฤดูกาลแรก บาร์เซโลน่า กับ โรนัลดินโญ่ จะไม่มีถ้วยแชมป์ติดมือ

แต่หลังจากนั้น โรนัลดินโญ่ ก็โชว์เพลงเตะเริงระบำแซมบ้าคลาสสิก และยึดบทบาทจอมทัพ ควบพาทีมบาร์ซ่า คว้าแชมป์มากมาก แต่ในขณะเดียวกับในชุดเยาวชน มีเด็กน้อยอายุวัยเพียงสิบหกปี ก็โชว์เพลงเตะสไตล์อเมริกาใต้เหมือนกัน จนทำให้เมสซี่ ได้มีโอกาสขึ้นมาเล่นชุดใหญ่

และนั่นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นของเสือสองตัว โดยวันแรกที่เหยินน้อย ได้พบกับเมสซี่ และได้ร่วมลงเล่นในสนามฝึกซ้อมเดียวกัน เหยินน้อย ได้กล่าวไว้ว่า เจ้าเด็กคนนี้คือคนที่จะมาควบตำแหน่งจอมทัพของบาร์เซโลน่าคนต่อไปและเค้าจะเก่งกว่าผมนี่เอง และเกมเป็นทางการครั้งแรกของเมสซี่ นั้นก็เป็นเหยินน้อยนี่แหละที่ถวายจ่ายพานให้กับเมสซี่ ยิงประตูแรกในสีเสื้อบาร์เซโลน่าชุดใหญ่ ซึ่งตลอดเวลาทีร่วมเล่นด้วยกัน เหยินน้อยเปรียบเสมือนเพื่อนและพี่ชายที่คอยรับส่งและไปสนามซ้อมด้วยกันเสมอ ซึ่ง ณ เวลานั้นไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า เหยินน้อย คือนักฟุตบอลหมายเลขหนึ่งของทีมบาร์เซโลน่า

และช่วงเวลานั้นด้วยวัยที่ต่างกันถึงแปดปี เมสซี่ ยังเหมือนเด็กที่รอคอยโอกาส โดยตลอดระยะเวลาที่ เหยินน้อย และเมสซี่ ร่วมเล่นกันตลอดสี่ปี ทั้งคู่พาทีมคว้าแชมป์มาสู่สโมสรบาร์เซโลน่าอย่างมากมาย แต่แล้วเวลาที่เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ก็มาถึง เพราะด้วยความสำมะเหร่เทเมาและชอบปาร์ตี้

นั่นคือสาเหตุที่สโมสรเริ่มมองถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นตัวอย่างให้นักเตะอนาคตของสโมสรอย่าง เมสซี จะเริ่มทำตามและเอาแบบอย่าง จึงทำให้สโมสรเริ่มผลักดันเมสซี่ เข้ามาแทนที่ของเหยินน้อย ซึ่งสุดท้าย เหยินน้อย ก็ได้ย้ายไปสู่ ปีศาจแดงดำ อย่างเอซีมิลาน จนในที่สุดเมื่อไม่มีเหยินน้อยนั้น เมสซี่ เริ่มฉายแววความเป็นผู้นำมา และจอมทัพออกมาเต็มตัว นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน

Posted in ข่าวกีฬา