ปิดตลาดซื้อขายนักเตะไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับการย้ายทีมของผู้เล่นในแต่ละทีม บางทีมก็สมหวังได้นักเตะที่ตัวเองต้องการ บางทีมก็พลาดไปไม่สามารถเจรจาต่อรองให้ลงตัวได้ นักฟุตบอลที่อยากย้าย แต่ไม่ว่าอย่างไรเรื่องราวพวกนี้อยู่ที่สโมสรระหว่างทั้งสองฝ่ายที่จะได้ผลประโยชน์ต่อการซื้อขายนักเตะกันมากน้อยเพียงใด

แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ตามตัวผลิตภัณฑ์หรือสินค้า เอาแบบที่เรียกกันตรงๆ ก็คือตัวของนักเตะเองว่าแฮปปี้หรือไม่

เพราะนักเตะบางคนนั้นก็อยากจะย้ายออกจากทีม แต่บางคนก็ไม่ได้อยากย้าย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วความรู้สึกของคนที่อยากย้ายแต่ไม่ได้ย้ายนั้นคงจะแอบเศร้าลึกๆมากกว่า คนที่ถูกขายออก เพราะคนที่ถูกขายออกแล้วมีคนซื้อแสดงว่ายังไงคุณก็ยังมีโอกาสได้ไปเล่นที่ใหม่แน่นอน แต่ประเภทที่ไม่ได้ย้ายทีมนี่สิ อาจจะลำบากใจในการอยู่ทีมเดิม

เพราะสถานะของคนพวกนี้จะมีอยู่สองประเภทคือ เป็นตัวสำรองอยู่แล้วและมักจะไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงสนามเท่าไหร่ ส่วนอีกแบบคือเป็นตัวจริงและเล่นเก่ง แต่อยากจะไขว่คว้าหาความสำเร็จไปร่วมทีมใหญ่ ดังกรณีทั้งสองแบบนี้ก็มียกตัวอย่างให้เห็นต่างอารมณ์กันไป ในกรณีแรก อยากย้ายทีมเพราะทนเป็นตัวสำรองไม่ไหว ของจอห์น สโตนส์

ซึ่งครั้งหนึ่งนักเตะคนนี้เคยเป็นกองหลังดาวรุ่งที่น่าจับตาที่สุดในเกาะอังกฤษสมัยค้าแข้งให้กับเอฟเวอร์ตัน แต่หลังจากย้ายมาหาความสำเร็จกับเรือใบสีฟ้าแมนซิตี้นั้น ฟอร์มของเค้ากลับไม่เหมือนเดิม แถมยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้โอกาสในการลงเล่นเป็นตัวจริงค่อยๆหายไป และเมื่อวันหนึ่งเรือใบสีฟ้า มีกองหลังอยู่มากมาย

ก็กลายเป็นว่า สถานะของเค้ากลายเป็นตัวเลือกแทนที่จะเป็นตัวจริงไปแล้ว และด้วยความที่ยังอายุน้อยและความหวังในการติดทีมชาติอังกฤษไปลุยศึกฟุตบอลยุโรปก็ยังคงมี สิ่งที่เค้าต้องทำคือย้ายทีมเพื่อการการันตรีตัวจริงและเรียกฟอร์มให้นายใหญ่ทีมชาติเห็น แต่สำหรับตลาดการย้ายครั้งนี้จบไปแล้ว

เค้าคงต้องรอการย้ายทีมในครั้งต่อไป ส่วนกรณีอยากย้ายเพื่อความสำเร็จทั้งที่ตัวเองก็เป็นตัวหลักกับทีมเดิม อย่าง วิลฟรีด ซาฮา นี้ก็เป็นเคสที่เห็นได้ชัด เพราะในทุกๆครั้งที่ตลาดเปิด มักจะมีชื่อนักเตะคนนี้อยู่ในการซื้อขายตลอด และเจ้าตัวเองก็ปราถนาที่จะย้ายไปสู่ทีมที่ใหญ่กว่า แต่ก็ไม่สามารถย้ายได้สักที และสโมสรก็ไม่ยอมขายให้กับทีมใด หนทางเดียวคือคงต้องรอหมดสัญญาเท่านั้น

 

สนับสนุนโดย.    agplus

Posted in ข่าวนักกีฬา